น้ำทองแดงในมหานรกและยมโลก
น้ำโลหะหรือที่เรามักจะเรียกกันด้วยความเข้าใจผิดว่าน้ำทองแดง ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้ลงทัณฑ์สัตว์นรกนั้น มีความน่ากลัวขนาดไหน ที่นี่มีคำตอบ
วัดบ้านขุน จัดพิธีมุทิตาสักการะมหาเปรียญธรรม คณะสงฆ์ภาค 7
วัดบ้านขุน จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดพิธีมุทิตาสักการะมหาเปรียญธรรมผู้ยิ่งใหญ่ ประจำปีพุทธศักราช 2567 ของคณะสงฆ์ภาค 7
ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภการที่พระสารีบุตรสามารถพยากรณ์ปัญหาที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิศดาร ณ ประตูสังกัสนคร
ทุททุภายชาดก ชาดกว่าด้วยกระต่ายตื่นตูม
เจ้ากระต่ายตัวหนึ่งมีความคิดที่ว่าหากแผ่นดินเกิดถล่มขึ้นมาตนควรจะทำอย่างไรดี จู่ ๆ ผลมะตูมลูกหนึ่งก็หล่นจากต้นตกใส่บนหลังคาใบตาลอันเป็นรังของเจ้ากระต่ายเข้าเต็มเปา เสียงดังจากการตกกระทบบวกกับความคิดจดจ่อของมันสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับเจ้ากระต่ายเป็นยิ่งนัก มันเลยวิ่งหนีสุดชีวิต ทำให้บรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายแตกตื่นพากันวิ่งตามๆ กันไปจนเกือบจะตกจากหน้าผาที่สูงชัน
สามเณรอรหันต์ รวมเรื่องราวของสามเณรอรหันต์ในสมัยพุทธกาล
สามเณรอรหันต์ รวมเรื่องราวของสามเณรอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ได้แก่ สุมนสามเณร, โสปากสามเณร, สามเณรสีวลี, สังกิจจสามเณร, สามเณรเรวตะ, สามเณราหุล, บัณฑิตสามเณร, สามเณรทัพพะ, ติสสสามเณร, สามเณรสานุ, สามเณรปิโลติกกะ, สามเณนิโครธ, จุนทะสามเณร และกุมารกัสสปสามเณร
โทษภัยของการพูดโกหก ผิดศีลข้อที่ ๔
ความวุ่นวายที่เกิดบนโลก โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการพูดจาโกหก หลอกลวง กลับกลอกกลับไปกลับมา เรามักจะพบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่เว้นเด็กเว้นผู้ใหญ่ มีหน้าตาฐานะทางสังคมอย่างไรและไม่มีกำแพงชนชาติมากีดกัน ซึ่งมักจะใช้คำสั้น ๆ ว่า “ เด็กเลี้ยงแกะ ” เป็นข้อความที่บ่งชี้ให้เห็นว่าบุคคลนั้น ๆ ที่ถูกประณามเป็นคนพูดโกหก พูดหลอกลวง ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ซึ่งถือว่าผิดศีลห้าในข้อที่ ๔ นั่นเอง ที่มีชื่อว่า มุสาวาท
กัณหทีปายนชาดก ชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร
“ เมื่อตอนแรกที่เราบวช เรายินดีประพฤติพรหมจรรย์ได้เพียง ๗ วันเท่านั้น จากนั้นแม้เราไม่ยินดีก็ทนประพฤติพรหมจรรย์ถึง ๕๐ กว่าปี ด้วยความสัตย์อันนี้ ขอให้ยัญญทัตตกุมารจงรอดชีวิตเถิด ” มัณพัพยะได้ถามถึงสาเหตุที่ทีปายนดาบสฝืนประพฤติพรหมจรรย์โดยไม่ยอมสึกมาครองเรือน “ ถ้าท่านไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ แล้วทำไมท่านไม่ออกมาครองเรือนหละ ” “ เพราะเราไม่อยากให้ใครว่าเราเป็นคนเหลวไหล กลับกรอกนะสิ
กัลยาณธรรมชาดก ชาดกว่าด้วยผู้มีกัลยาณธรรม
" เราไม่ได้ออกบวช แต่คนอื่นทั้งหมดกลับคิดว่าเราบวช นี่คงเป็นเสียงดีสินะ เราจะไม่ทำให้เสียงดีนี้หายไป เราจะออกบวช ” เศรษฐีจึงกลับไปเข้าเฝ้าพระราชาอีกครั้ง พระราชาเมื่อเห็นเศรษฐีเดินมาเข้าเฝ้าอีกก็แปลกใจจึงตรัสถามว่า “ ท่านมหาเศรษฐี ท่านเพิ่งไปเดี๋ยวนี้เอง ทำไมจึงกลับมาอีกเล่า ” “ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน กาลใดบุคคลได้สมัญญาในโลกว่า ผู้มีกัลยาณธรรม กาลนั้นนรชนผู้มีปัญญาไม่พึงทำตนให้เสื่อมสมัญญานั้นเสีย "
ขรัสสรชาดก ชาดกว่าด้วยบุตรที่มารดาละทิ้ง
วันหนึ่ง มีบัณฑิตผู้หนึ่งได้เดินทางไปพักที่ในหมู่บ้านนั้น เขาได้เห็นอำมาตย์ผู้นี้ เวลาจะเดินทางไปไหน ต้องมีคนตีฆ้องกลองนำหน้า มีบริวารห้อมล้อมเป็นที่เอิกเกริกใหญ่โต “ เวลาใดที่พวกโจรมาปล้นบ้าน เผาบ้านเรือน ฆ่าโคกิน แล้วจับเอาคนไปเป็นเชลยนั้น เมื่อนั้นบุตรธิดาละทิ้งแล้ว จึงมาตีกลองเสียงอึกทึก โดยแท้จริงอำมาตย์ผู้นี้เองเป็นคนทุจริต เป็นผู้สมคบกับโจร ”
อุจฉังคชาดก ชาดกว่าด้วยหญิงผู้มีใจรักพี่รักน้อง
หญิงสาวชาวนาจำเป็นต้องเลือกขอชีวิต สามี พี่ชาย และลูกชายได้เพียงคนเดียวเท่านั้น นางจึงได้ชี้แจงต่อพระราชาไปว่า “ ขอเดชะพระองค์ผู้เป็นราชาเทพ อันบุตรนั้นย่อมเกิดในครรภ์เหมือนอยู่ในพกในห่อ หม่อมฉันย่อมให้กำเนิดบุตรเองได้ อันสามีเล่าหากต้องการ เมื่อเดินไปตามทาง ย่อมหาได้ไม่ยาก แต่โอกาสจะมีพี่น้องร่วมท้องพ่อแม่เดียวกัน หม่อมฉันมองไม่เห็นทาง เพราะพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ”